วันเสาร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2560

มาสอบ TOEFL ITP กันเถอะ

ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนว่าการมาอบรม TOEFL ครั้งนี้เป็นไฟลท์บังคับจ้าเพราะว่าที่ทำงานส่งมา ใจจริงอยากจะมาลองสอบดูมานานแล้วแต่ด้วยค่าสอบที่ค่อนข้างแพงแสนสาหัสเลยเบรคไว้ก่อนดีกว่า ครั้งนี้เราอบรมที่มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี จังหวัดจันทบุรี เนื่องจากทางมหาวิทยาลัยกำลังดำเนินโครงการจัดตั้งสถาบันนานาชาติเลยต้องมีการจัดอบรม TOEFL ให้กับบุคลากรและบุคคลทั่วไปที่สนใจ

                 

ด้วยราคาเพียง 2,000 บาท (ช่วงนี้โปรโมชั่น) อบรมให้ วัน พร้อมดำเนินการสอบให้เลยเราก็เลยโดนส่งตัวมาพร้อมเพื่อนที่เป็นหน่วยกล้าตายจากที่ทำงาน 





เริ่มด้วยการกรอกใบสมัครและชำระเงิน รอตารางอบรมและเริ่มอบรม
วันที่ 22 – 24 เมษายน 60 และทำการสอบวันที่ 30 เมษายน 60



สิ่งที่แนะนำก่อนการไปสอบทีอยากจะแนะนำนะคะคือการเตรียมตัวค่ะ พยายามหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ TOEFL ให้ได้มากที่สุดนะคะ อ่านไปก่อนให้รู้ว่าเค้ามีข้อสอบกี่ข้อ กี่ part เพราะจะได้เตรียมตัวถูกว่าต้องทำอะไรบ้าง ก่อนไปเราก็ลองหาข้อสอบตาม website หรือ YouTube ดูก่อน ช่วยได้มากเลยค่ะ   



สถานที่


รายการอบรมเริ่มเวลา 08.30 – 16.00 น. ค่ะ แต่เรามาก่อนเพื่อดูสถานที่ อบรมที่ห้องประชุมมฌฑาทอง โรงแรมริมกริน อยู่ในมหาวิทยาลัยราชฏัชรำไพพรรณีเลยค่ะ 






วันแรก... Guide to listening comprehension


มีการแนะนำตัววิทยากรและกล่าวเปิดงานอบรมเล็กน้อย โดยวิทยากรของเราก็คือ Mr.Francis Chan ตำแหน่ง TOEFL Specialist แห่งสถาบันการศึกษานานาชาติ (ไอไออี) หน่วยงานตัวแทนของ TOEFL ITP ในประเทศไทย จากนั้นเริ่มที่listening part นับว่าเป็น part ที่ยากมากๆเลยสำหรับเราเพราะเรื่องการฟังและพูดนี่แย่มาก เริ่มที่การฟังบทสนทนา

HOMOPHONE

ก่อนที่จะเริ่มทดสอบการฟังทางวิทยากรได้ให้ลองฟังตัวอย่างแรกของบทสนทนาที่มี homophone ก่อนเพื่อให้เราจับทางได้ว่าข้อสอบแนว homophone เป็นอย่างไร  ข้อสอบแนวนี้คือคำที่ออกเสียงจะมีลักษณะที่คล้ายกันเช่น  flu กับ flew หรือ glasses กับ classes เป็นต้น 

WORD WITH MULTIPLE MEANINGS

ตัวอย่างที่สองเป็นการฟังบทสนทนาที่มีคำศัพท์ที่มีหลายความหมาย เช่นคำว่า letter ซึ่งความหมายแรกที่ทุกคนคิดถึงคือจดหมายใช่ไหมคะ แต่... letter มีความหมายอีกอย่างหนึ่งก็คือตัวอักษรหรือตัวหนังสือค่ะ 
จากนั้นก็เริ่มทดสอบการฟัง...ฟัง....และฟังเท่านั้นค่ะ เริ่มจากการฟัง....
Dialogs สั้นๆที่มี homophone เพื่อเลือกคำที่มีความหมายที่ถูกต้อง
Statement ที่มีคำที่มีหลายความหมายเพื่อเลือกคำตอบให้ถูกต้อง
พักเบรก 15 นาทีค่ะ อยากบอกว่าตลอดช่วงการอบรมนั้นเป็นการอบรมที่เข้มข้นมาก วิยากรทำงานอย่างเต็มที่เลยค่ะชอบมากๆเลย
“ถ้าหากกระดิกตัวผิดจังหวะล่ะก็หลุดออกนอกวงโคจรทันที”

DIALOGS WITH IDIOMATIC EXPRESSION

กลับมาต่อกันเลยนะคะ.. ในการฟัง DIALOGS WITH IDIOMATIC EXPRESSION นี้จะเป็นการฟังบทสนทนาที่มี idiom (สำนวน) อยู่ด้วย ซึ่งตรงนี้ขอบอกว่าหากใครได้เรื่องของ idiom จะเป็นเรื่องที่ได้เปรียบมากค่ะแต่ถ้าหากใครไม่ได้ล่ะก็ไม่ต้องกังวลค่ะเพราะระหว่างพักหรือทานอาหารกลางวันวิทยากรของเราก็ใจดีหา idiom พร้อมตัวอย่างจาก YouTube ไว้ให้ด้วยค่ะ และในเอกสารการอบรมก็มี idiom expression ไว้ให้ด้วยนะ เรียกได้ว่าอำนวยความสะดวกมากๆเพียงแค่เรามีความขยันในการอ่าน การฝึกฝนค่ะ

ส่วนนี้ก็เหมือนเดิมค่ะเริ่มจากการฟัง idiom สั้นๆง่ายๆก่อนแล้วถึงเริ่มเข้าเรื่องของบทสนทนาที่มี idiom อยู่ วิทยากรได้จัดลำดับความง่ายไปยากเพื่อให้พวกเราได้ปรับตัวในการฟังค่ะ

ANSWERING INFERENCE QUESTIONS ABOUT DIALOGS

ในส่วนนี้เราจะไม่สามารถหาคำตอบที่มีในบทสนทนาได้ค่ะ คำตอบไม่ได้มีให้ตรงๆ ซึ่งเราจะเจอคำถามประมาณว่า ‘what does the man imply?’ ‘what can be inferred from the conversation? ประมาณนี้ล่ะ หมายความว่าเราต้องตีความเอาเองจากการฟังค่ะ

DIALOGS INVOLVING AGREEMENT AND DISAGREEMENT

Agree = เห็นด้วย
Disagree = ไม่เห็นด้วย
แต่คำตอบไม่ได้มีเพียงแต่ yes/no ค่ะ เราต้องทำความเข้าใจกับผู้พูดคนที่สองค่ะว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย ตั้งใจฟังคนแรกดีๆด้วยค่ะว่าเค้าพูดอะไร แล้วฟังคนที่สอง ฟังน้ำเสียงด้วยนะคะ พวกนี้จะเป็นแนวคำตอบให้เราได้ค่ะและที่สำคัญคำต่างๆที่แปลว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย เช่น 

Agree
Disagree
So, do I
I’m afraid I don’t agree
I don’t either
Not really
You can say that again
I couldn’t agree with you less

เย้! เรียบร้อยสำหรับครึ่งวันเช้าค่ะ เป็นยังไงกันบ้าง อย่าขยับตัวหรือสมาธิหลุดนะคะเพราะจะหาทางกลับมาค่อนข้างยากสำหรับคนที่ไม่ถนัดเรื่องการฟัง(เหมือนเรา) จากนั้นช่วงบ่ายเป็นการจับเวลาทดสอบค่ะ ฟังล้วนๆตั้งแต่ที่เรียนมาตอนเช้าทั้งหมด

วันที่สอง... Guide to structure and written Expression

และแล้ววันที่สองก็มาถึงเป็นวันที่สนุกมากเพราะได้เรียนเรื่อง grammar ถือว่าดีสำหรับเราในเรื่อง grammar แต่แอบยากมากอยู่เหมือนกัน  เริ่มที่ระดับแรกก่อนเลยก็คือ

INCOMPLETE INDEPENDENCE CLAUSE

เรื่องนี้อยากบอกว่าจะยากมากสำหรับคนที่ยังไม่คล่องเรื่องของ clause นะคะ ให้ไปลองหาเรื่อง Sentence structures ทีมี simple sentence, compound sentence and complex sentence มาอ่านก่อนได้เลยค่ะ ต้องดูให้ออกว่าตรงไหนคือ main clause และ subordinate clause

INCOMPLETE ADJECTIVE CLAUSE

ส่วนนี้จะเรียนเกี่ยวกับเรื่อง adjective clause markers เช่น who, whom,, whose, with, that, etc. แล้วเริ่มทำแบบฝึกหัดง่ายๆก่อนแล้วจึงไล่ระดับที่ยากขึ้น

INCOMPLETE OR MISSING PARTICIPLE PHRASE

ในส่วนนี้จะเป็นการเขียนลดรูป clause ให้กระชับขึ้น เช่น
-           Minnesota, which joined the Union in 1858, became the thirty-second state.
ลดรูปเป็น
-           Minnesota, joining the Union in 1858, became the thirty-second state.
การลดรูปจะต้องทำให้สมบูรณ์ไม่ใช่แค่ตัดออกส่วนใดส่วนหนึ่ง

INCOMPLETE ADVERB CLAUSE

 ส่วนนี้เราเรียนเรื่อง adverb clause markers, clause markers with –ever, reduced adverb clause and prepositional phrase with the same meaning as adverb clause
ต่อจากนั้นก็จับเวลาทำแบบฝึกหัดค่ะ ข้อละไม่เกิน 1 นาที ท้าทายมากค่ะ

INCOMPLETE NOUN CLAUSE   

ส่วนนี้จะค่อนข้างง่ายกว่าพวก adverb clause ค่ะ เพราะไม่ได้ซับซ้อนอะไรมากเพียงแค่ต้องมองให้ออกว่าส่วนใดที่เป็นส่วน noun clause ทำหน้าที่เป็นประธานหรือว่าเป็นกรรมค่ะ วิทยากรจะนำเราทำแบบฝึกหัดก่อน พยายามตามให้ทันค่ะเพราะผ่านไปค่อนข้างเร็วต้องกระชับเวลา สามารถถามวิทยากรได้ตลอดการอบรมค่ะ

ERRORS WITH WORD FORMS

ERROR WITH VERBS

อ่ะฮ่ะ.... สองส่วนนี้ใครแม่นล่ะก็หวานเลยค่ะ สำหรับคนที่ทำแบบฝึกหัดในเรื่องของ grammar ต่างๆมาพอสมควร ส่วนนี้ถิอว่าได้เปรียบมากค่ะ 

ERROR WITH PARALLEL STRUCTURE

ส่วนนี้เป็นเรื่องของโครงสร้างคู่ขนานค่ะ คำที่ใช้ต้องเป็นคำประเภทเดียวกัน เช่น fishing and working เรื่องนี้ต้องแม่น parts of speech ค่ะ

***และแล้ววันที่สองก็ผ่านพ้นไปด้วยข้อสอบทีมี grammar ล้วนๆตามทีเขียนไว้ค่ะ เข้มข้นมากจริง***


วันที่สาม.... Guide to Reading Comprehension

โอ้ววววว.....เห็นชื่อเรื่องคิดในใจงานสบายแน่นอนค่ะ reading แต่!! คิดผิดค่ะ มันยากอะไรอย่างนี้ ส่วนนี้ต้องยอมรับเลยว่ายากมากค่ะสำหรับเรา ส่วนคนที่ชอบอ่านและลองทำแบบฝึกหัดเยอะๆนี่ไม่ต้องกลัวนะคะ ยิ่งได้คำศัพท์ยิ่งดีมากๆๆๆเลยค่ะ เป็นส่วนที่อ่าน passage ต่างๆ เนื้อเรื่องค่อนข้างยาวค่ะ ต้องตั้งสติดีๆ รักษาเวลาข้อล่ะไม่เกิน 1 นาทีกำลังดีค่ะ เนื้อหาที่เรียนมีดังนี้ค่ะ

OVERVIEW QUESTION

FACTUAL QUSTIONS, NEGATIVE QUESTONS AND SACNNING QUESTIONS

INFERENCE QUEATIONS AND PURPOSE QUESTIONS

VOCABULARY –IN-CONTEXT QUESTIONS

REFERNCE QUESTIONAS


จากนั้นจึงตามมาด้วยการทำแบบฝึกหัด ต้องอ่านมากจริงๆค่ะงานนี้ สู้ๆนะคะ แล้วจับเวลาทำข้อสอบ 50 ข้อด้วยเวลา 55 นาทีค่ะ อืม....... ต้องอ่านเท่านั้นค่ะ

ปิดท้ายครึ่งบ่ายด้วยการจับเวลาทำข้อสอบโดยเริ่มตั้งแต่ Listening, grammar and reading ตามลำดับค่ะ


หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่กำลังจะเริ่มเตรียมตัวไปสอบนะคะ ลองดูแนวข้อสอบตาม website ต่างๆหรือจากหนังสือก็ได้ค่ะจะคล้ายๆกัน ขอให้ทุกคนโชคดีกับการสอบสมกับความมุ่งมั่นตั้งใจนะคะ



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น